วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559

ชนิดของคำซ้อน





            ในการนำคำมูลมาซ้อนกัน มักจะใช้คำมูล ๒ คำ และถ้าจะนำคำมูลมาซ้อนกันมากกว่า ๒ คำ จะใช้คำมูลมาซ้อนเป็นเลขคู่ เช่น คำมูล ๔ คำ หรือคำมูล ๖ คำ  เช่น 
            คำมูล ๒ คำ ได้แก่ ฟ้าฝน หน้าตา ข้าวปลา
            คำมูล ๔ คำ  ได้แก่ ต้อนรับขับสู้  ยากดีมีจน  กู้หนี้ยืมสิน
            คำมูล ๖ คำ  ได้แก่ ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน  คดในข้องงอในกระดูก
            คำซ้อนที่เกิดจากหลักการสร้างทั้ง ๓ วิธี ทำให้เกิดคำซ้อนขึ้นใช้มากมาย เมื่อจำแนกชนิดของคำซ้อน สามารถแยกได้ ๒ ชนิด คือ
คำซ้อนเพื่อความหมาย   เป็นการนำคำมูลมาซ้อนกัน โดยมีความหมายในทำนองเดียวกันหรือมีความหมายตรงกันข้ามมารวมกัน 
            ความหมายทำนองเดียวกัน เช่น กักขัง  ปกป้อง  คัดเลือก  จืดชืด ซักฟอก  เดือดร้อน  ทิ้งขว้าง  บุกรุก  ปิดบัง ปกครอง  เพ่งเล็ง เลือกเฟ้น  สดชื่น 
            ความหมายตรงกันข้าม เช่น  ถูกผิด  หนักเบา ยากง่าย  เร็วช้า  ชั่วดี  บาปบุญ  ดีร้าย  เปรี้ยวหวาน  สูงต่ำ  ดำขาวเท็จจริง  สูงต่ำดำขาว  ชั่วดีถี่ห่าง  ศึกเหนือเสือใต้
คำซ้อนเพื่อเสียง  เกิดจากการนำพยางค์สองพยางค์ที่มีเสียงพยัญชนะต้นอย่างเดียวกัน หรือตัวเดียวกัน ส่วนเสียงสระหรือตัวสะกดอาจจะต่างกันก็ได้ เช่น
             ๑. คำซ้อนเพื่อเสียง เกิดจากพยางค์สองพยางค์ที่มีเสียงพยัญชนะเหมือนกันหรือตัวเดียวกัน ได้แก่ เกะกะ ขรุขระ คู่คี่ เงอะงะ ซู่ซ่า
              ๒. คำซ้อนเพื่อเสียง เกิดจากพยางค์สองพยางค์ที่มีเสียงพยัญชนะต้นและตัวสะกดเหมือนกัน แต่มีเสียงสระต่างกัน ได้แก่ เก้งก้าง ขลุกขลิก คึกคัก จริงจัง



ใครเป็นแบบนี้บ้าง งั้นเรามาฟังเพลงแก้เครียดดีกว่านะคะ




                     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น